IT Infrastructure

หลายองค์กรอาจมีข้อสงสัยถึงความจำเป็นการการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานด้าน IT หรือ IT Infrastructure คำตอบอยู่ที่ว่าองค์กรนั้นต้องการเติบโตแค่ไหน เพราะปัจจุบัน IT เป็นส่วนสำคัญของการเติบโตและความยั่งยืนของธุรกิจ ช่วยให้ธุรกิจดำเนินงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ปรับตัวเข้ากับการเปลี่ยนแปลง ปกป้องข้อมูลอันมีค่า และให้บริการที่เป็นเลิศแก่ลูกค้า

หากองค์กรนั้นมีการออกแบบโครงสร้างพื้นฐานด้าน IT หรือ IT Infrastructure ให้เหมาะสมกับธุรกิจแล้ว องค์กรนั้นจะสามารถใช้ศักยภาพของ IT เข้ามาช่วยให้ธุรกิจก้าวไปข้างหน้าได้อย่างเต็มที่ อีกทั้งยังสามารถลดความผิดพลาดอันเกิดจากมนุษย์ เพิ่มความปลอดภัยของข้อมูลในองค์กร และยังมีอีกหลากหลายด้านที่ช่วยให้องค์กรลดค่าใช้จ่ายได้อีกมาก

อีกทั้งการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้าน IT หรือ IT Infrastructure ในปัจจุบันมีราคาถูกลงมากกว่า 2 เท่า เนื่องด้วยเทคโนโลยี Cloud, SaaS (Software as a Services) ทำให้องค์กรที่มีขนาดเล็ก สามารถเข้าถึงระบบ IT ที่มีประสิทธิภาพสูงในราคาประหยัด

การลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานด้าน IT หรือ IT Infrastructure ก่อให้เกิดประโยชน์มากมายต่อธุรกิจ นี่คือข้อได้เปรียบที่สำคัญถ้าองค์กรจะได้รับ

ประสิทธิภาพและผลลัพธ์ : การมีโครงสร้างพื้นฐานด้าน IT ที่แข็งแกร่งทำให้มั่นใจได้ว่าการดำเนินงานขององค์กรดำเนินไปอย่างราบรื่น ช่วยลดภาระงานที่ทำซ้ำๆ ให้เป็นอัตโนมัติ จึงช่วยประหยัดเวลาและทรัพยากร ซึ่งจะเพิ่มประสิทธิภาพและผลลัพท์ของพนักงานและธุรกิจโดยรวม

การจัดการข้อมูลและความปลอดภัย : โครงสร้างพื้นฐานด้าน IT มีเครื่องมือที่จำเป็นสำหรับการจัดการข้อมูลที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งรวมถึงฐานข้อมูลและระบบจัดเก็บข้อมูลทั้งบน Cloud และภายในสำนักงาน ซึ่งช่วยให้จัดเก็บข้อมูลได้อย่างปลอดภัยและเข้าถึงได้ง่าย นอกจากนี้ การลงทุนในมาตรการรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์มีความสำคัญต่อการปกป้องธุรกิจที่ละเอียดอ่อนและข้อมูลลูกค้าจากการคุกคามและการละเมิด

ความสามารถในการขยายและความยืดหยุ่น : ด้วยโครงสร้างพื้นฐานด้าน IT ที่ออกแบบเฉพาะ ธุรกิจสามารถเติบโตและปรับตัวได้อย่างง่ายดาย ตัวอย่างเช่น บริการ Cloud ให้ความสามารถในการปรับขยาย เนื่องจากทรัพยากรสามารถเพิ่มหรือลดได้ตามความต้องการทางธุรกิจ ซึ่งช่วยให้มีความยืดหยุ่นและคุ้มค่า เนื่องจากมีค่าใช้จ่ายเฉพาะทรัพยากรที่องค์กรใช้เท่านั้น

การทำงานร่วมกันและการสื่อสาร : โครงสร้างพื้นฐานด้าน IT ที่ทันสมัยช่วยให้การทำงานร่วมกันและการสื่อสารเป็นไปอย่างราบรื่นทั้งภายในและภายนอก เครื่องมือต่างๆ เช่น การประชุมทางวิดีโอ การส่งข้อความโต้ตอบแบบทันที และซอฟต์แวร์การจัดการโครงการช่วยให้ทีมทำงานร่วมกันได้ไม่ว่าจะอยู่ที่ใด

ความได้เปรียบทางการแข่งขัน : ธุรกิจที่ลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานด้าน IT จะได้เปรียบกว่า เพราะสามารถใช้ข้อมูลเพื่อตัดสินใจอย่างชาญฉลาด ทำให้กระบวนการทำงานอัตโนมัติเพื่อประหยัดเวลาและค่าใช้จ่าย และให้บริการที่ดีขึ้นแก่ลูกค้าผ่านประสบการณ์ดิจิทัลที่ได้รับการออกแบบมาแล้ว

ความต่อเนื่องทางธุรกิจ : โครงสร้างพื้นฐานด้าน IT ที่เชื่อถือได้ยังสนับสนุนแผนความต่อเนื่องทางธุรกิจอีกด้วย ด้วยระบบที่เหมาะสม ธุรกิจสามารถฟื้นตัวได้เร็วขึ้นจากการหยุดชะงักจากเหตุการณ์ไม่คาดฝันต่างๆ เช่น ถูกโจมตี ไวรัส Ransomware ไฟไหม้ น้ำท่วม และรับประกันว่าบริการขององค์กรจะพร้อมกลับมาให้บริการแก่ลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว

ความพึงพอใจของลูกค้า : ด้วยการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานด้าน IT ธุรกิจสามารถปรับปรุงระดับการบริการลูกค้าของตัวเองได้ เว็บไซต์ที่มีประสิทธิภาพและเป็นมิตรกับผู้ใช้ แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซที่เชื่อถือได้ หรือระบบการบริการลูกค้าที่ตอบสนอง สามารถเพิ่มประสบการณ์ของลูกค้าได้อย่างมาก ซึ่งจะนำไปสู่ความพึงพอใจและความภักดีที่สูงขึ้น

ตัวอย่างของการออกแบบและพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้าน IT หรือ IT Infrastructure สำหรับองค์กรมีดังนี้

  • การออกแบบ “IT Infrastructure” ตามความต้องการทางธุรกิจ
  • การออกแบบระบบเครือข่าย Wifi ในสำนักงาน เพื่อให้สามารถใช้งานได้อย่างต่อเนื่อง
  • การออกแบบเพื่อรักษาความปลอดภัยของข้อมูลและระบบภายในสำนักงาน Firewall and Secure Network
  • ระบบตรวจับ แจ้งเตือน อุปกรณ์เครือข่าย Server ที่มีความสำคัญในองค์กร System Monitoring เพื่อสามารถเข้าตรวจสอบและแก้ไขก่อนปัญหาจะเกิดขึ้น
  • การออกแบบการใช้งานระบบต่างๆ ของสำนักงานบนระบบเสมือน Virtualization หรือ VM เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของระบบโดยรวม
  • การออกแบบการสำรองข้อมูลระบบทั้งภายในสำนักงาน และภายนอกสำนักงาน System Backup & Restore