1. ประหยัดค่าใช้จ่ายและเพิ่มความยืดหยุ่นด้วย Cloud Computing: Cloud Computing ช่วยลดค่าใช้จ่ายด้าน IT Infrastructure ขององค์กร ขณะเดียวกันก็เพิ่มความยืดหยุ่นและความคล่องตัวในการขยาย Resource ตามความต้องการ
2. การนำ Cloud มาใช้เพื่อพัฒนา IT Infrastructure: การใช้ Cloud เป็นวิธีการที่ทันสมัยในการพัฒนา IT Infrastructure โดยมีการทำ Cloud Migration การพัฒนา Cloud-native Applications และการใช้ Managed Cloud Services เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ
3. การเพิ่มประสิทธิภาพด้วยเทคโนโลยีเสมือน: Virtualization ช่วยให้สามารถใช้ทรัพยากรฮาร์ดแวร์ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ นอกจากนี้ยังเพิ่มความยืดหยุ่นและความสามารถในการ Scale ของ IT Infrastructure รวมถึงสนับสนุนการ Live Migration ของ Virtual Machine เพื่อ High Availability
4. การใช้ Virtualization Technology เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ: Virtualization Technology ช่วยเพิ่มการใช้ทรัพยากรและประหยัดพลังงาน เพิ่มความยืดหยุ่น และการ Scale ของ IT Infrastructure และเพิ่มประสิทธิภาพในการ Backup และ Disaster Recovery
5. การผสานรวมเทคโนโลยี Cloud และ Virtualization: การนำเทคโนโลยี Cloud และ Virtualization มาใช้ร่วมกันช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้แก่กันและกัน ทำให้ IT Infrastructure มีความยืดหยุ่น คล่องตัว และรองรับการเปลี่ยนแปลงได้ดีขึ้น
ในยุคปัจจุบัน เทคโนโลยีดิจิทัลมีวิวัฒนาการอย่างรวดเร็ว องค์กรต่างๆ จึงจําเป็นต้องปรับตัวและพัฒนา IT Infrastructure อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้รองรับเทคโนโลยีใหม่ๆ และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน เทคโนโลยี Cloud และ เทคโนโลยีเสมือน Virtualization Technology เป็นเทคโนโลยีที่มีบทบาทสําคัญในการพลิกโฉม IT Infrastructure ให้ทันสมัยและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
เทคโนโลยี Cloud
Cloud Computing เป็นเทคโนโลยีที่อนุญาตให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึงทรัพยากรด้านคอมพิวเตอร์ เช่น พื้นที่เก็บข้อมูล ซอฟต์แวร์ แอปพลิเคชัน ผ่านอินเทอร์เน็ต โดยไม่จําเป็นต้องลงทุนซื้ออุปกรณ์และดูแลระบบเอง
ความสําคัญของ Cloud
- ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายด้าน IT Infrastructure ขององค์กรได้อย่างมาก
- ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นและความคล่องตัวในการขยาย Resource ตามความต้องการ
- ช่วยรองรับการใช้งานเทคโนโลยีอัจฉริยะ เช่น AI, Machine Learning, IoT, Big Data ได้ดียิ่งขึ้น
- สามารถกู้คืนระบบได้อย่างรวดเร็ว ในกรณีที่เกิดภัยพิบัติหรือภัยคุกคามทางไซเบอร์
การนํา Cloud มาใช้เพื่อพัฒนา IT Infrastructure
- ใช้ Cloud แทนที่ Data Center พื้นฐานขององค์กร
- ทํา Cloud Migration โยกย้ายระบบ ข้อมูล และแอปพลิเคชัน ขึ้น Cloud
- พัฒนา Cloud-native Application บน Cloud Platform เพื่อให้ได้คุณสมบัติเด่นของ Cloud มาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ
- ประยุกต์ใช้ Managed Cloud Services เช่น AI, IoT Platform, ระบบวิเคราะห์ข้อมูล เป็นต้น
เทคโนโลยีเสมือน (Virtualization Technology)
Virtualization เป็นเทคโนโลยีที่ช่วยแบ่ง Resource ของฮาร์ดแวร์หรือซอฟต์แวร์ให้สามารถใช้งานร่วมกันได้ เช่น แบ่ง Server, Storage, Network, Operating System ให้เป็นหลายๆ ส่วนเสมือน ทําให้ใช้ทรัพยากรฮาร์ดแวร์ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพมากขึ้น
ความสําคัญของ Virtualization Technology
- ช่วยเพิ่ม Resource Utilization และประหยัดพลังงาน
- เพิ่มความยืดหยุ่นและความสามารถในการ Scale ของ IT Infrastructure
- สนับสนุนการ Live Migration ของ Virtual Machine เพื่อ High Availability
- สามารถ Rollback ไปยัง Snapshot ได้ง่าย เพิ่มประสิทธิภาพด้าน Backup & Disaster Recovery
การนํา Virtualization Technology มาใช้เพื่อพัฒนา IT Infrastructure
- ใช้ Hypervisor แบ่ง Physical Server เป็น Multiple Virtual Machine
- ใช้ Virtual Desktop Infrastructure (VDI) เพื่อให้ผู้ใช้งานเข้าถึง Desktop และ App ผ่านเครือข่าย
- สร้าง Software-defined Network (SDN) และ Network Function Virtualization (NFV)
- ติดตั้ง Virtual Storage เพื่อแบ่งแยกและจัดสรร Physical Storage อย่างยืดหยุ่น
การผสานรวมเทคโนโลยี Cloud และ Virtualization
ในปัจจุบันเทคโนโลยี Cloud และ Virtualization ถูกนํามาใช้ร่วมกันอย่างแพร่หลาย เนื่องจากช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้แก่กันและกัน ยกตัวอย่างเช่น
- การใช้ Virtual Machine บน Cloud Platform เพื่อเพิ่ม Scalability และ Agility
- การทํา Serverless Computing บน Cloud ด้วย Virtual Function
- การใช้ Container Technology เพื่อ Deploy Microservices ลงบน Cloud ได้ง่าย
- การทํา Cloud Bursting คือ การใช้ Hybrid Cloud โดยให้ Private Cloud ทํางานร่วมกับ Public Cloud แบบ Dynamic ตามความต้องการของ Workload
โดยสรุปแล้ว เทคโนโลยี Cloud และ Virtualization ล้วนมีส่วนช่วยให้องค์กรสามารถพัฒนา IT Infrastructure ให้มีประสิทธิภาพสูงสุดได้ โดยเฉพาะการนํามาใช้ร่วมกันจะช่วยให้ได้ประโยชน์จากจุดแข็งของแต่ละเทคโนโลยี ทําให้การทํางานของ IT Infrastructure มีความยืดหยุ่น คล่องตัว และรองรับการเปลี่ยนแปลงได้มากขึ้น